How to หาตัวตนเพื่อจะได้ทำงานในสิ่งที่ตัวเองรัก

How to หาตัวตนเพื่อจะได้ทำงานในสิ่งที่ตัวเองรัก

การทำงานเป็นสิ่งที่ทุกคนต้องใช้เวลามากที่สุดในแต่ละวัน เพราะใช้เวลาอย่างน้อย 8 ถึง 10 ชั่วโมง บางทีมากกว่าการนอนหลับพักผ่อนเสียอีก ด้วยเหตุนี้ เราจึงมี How to หาตัวตนทำงานในสิ่งที่ตัวเองรัก คุณจะได้มีความสุขและได้ใช้ชีวิตอย่างมีคุณภาพมากขึ้น ซึ่งมีอะไรบ้าง มาดูกัน

วิธีค้นหาในสิ่งที่ตัวเองรัก

วิธีที่ 1 ลองทำในสิ่งที่ไม่เคยทำมาก่อน

การไม่ลองทำสิ่งใหม่ ๆ ยึดติดสิ่งเดิมหรือที่เคยชิน เรียกว่าเป็นการอยู่ใน COMFORT ZONE หากคุณสังเกตตัวเองว่าเป็นคนหนึ่งที่เป็นเช่นนี้และอยากหางานในสิ่งที่รัก ก็จะต้องลองทำอะไรก็ได้ในเชิงสร้างสรรค์ เช่น การคบคนใหม่ ๆ ที่ไม่เคยคบมาก่อน โดยเฉพาะคนที่ทำอาชีพแตกต่างกับคุณ การลองขายของ เป็นต้น

วิธีที่ 2 สังเกตตัวเองว่าทำงานเพราะความกลัวอะไรบางอย่างหรือไม่

การรับฟังใจตัวเองว่า สิ่งที่ทำงานในตอนนี้ ทำด้วยความรักหรือทำเพราะความกลัวอะไรบางอย่างหรือไม่ เช่น กลัวว่าถ้าไม่ทำก็จะตกงานส่งผลให้ไม่มีรายได้ กลัวว่าตัวเองไม่มีคุณภาพมากพอที่จะทำสิ่งใหม่ ๆ เป็นต้น หากมีความกลัวเช่นนี้ บ่งบอกว่า ไม่ใช่งานที่รักอย่างแน่นอน เพราะฉะนั้น ต้องค้นหาตัวเองว่ามีพรสวรรค์ด้านไหน หากใครบอกว่าไม่มีพรสวรรค์ ไม่ใช่ความจริงเพราะเป็นไปไม่ได้เลยว่าทุกคนจะไม่มีพรสวรรค์ เพียงแต่ว่าหลายคนไม่ทราบว่าเก่งอะไร เมื่อไม่รู้ตัวเอง ถึงแม้ว่าได้เงินมาแต่เป็นงานที่ไม่ชอบ โอกาสจะมีความสุขในชีวิตก็จะน้อย

วิธีที่ 3 ตั้งคำถามกับตัวเองว่า “ชอบหรือถนัดอะไร”

สิ่งที่ดีสำหรับคนอื่น อาจจะไม่ดีสำหรับคุณ ทำให้การตั้งคำถามกับตัวเองว่า “ชอบหรือถนัดอะไร” จึงมีความสำคัญ เพราะไม่มีใครอยู่กับคุณนานเท่ากับที่คุณอยู่กับตัวเองและเมื่อคุณเจอสิ่งที่ชอบแล้ว ถึงแม้ว่าอาจจะเริ่มต้นด้วยเงินเดือนที่น้อยกว่าหรือสิ่งแวดล้อมรอบข้างไม่ค่อยดีนักก็ให้ลงมือทำไปก่อน เป็นการพัฒนาจุดแข็งในสิ่งที่ชอบให้ไปได้ไกลขึ้นกว่าเดิม เนื่องจากงานที่รักจะทำให้รู้สึกเพลิดเพลิน สนุกจนลืมเวลาและไม่รู้สึกว่าจะต้องตื่นเช้ามาทำงาน เมื่อทำด้วยหัวใจก็จะทำให้ไม่รู้สึกเบื่อหน่ายและเป็นงานที่มีความหมายกับคุณ นอกจากนี้ยังเป็นงานที่สามารถใช้ศักยภาพที่มีได้อย่างเต็มที่โดยไม่สนใจเลยว่างานที่ทำอยู่จะซ้ำ ๆ เดิม ๆ หรือไม่ก็ตามวิธีค้นหาในสิ่งที่ตัวเองรัก

3 วิธี หาตัวตนเพื่อจะได้ทำงานในสิ่งที่ตัวเองรักดังกล่าวข้างต้น หากคุณได้ทำตามคำแนะนำ คุณก็จะทำงานแบบไม่ฝืนใจทำและทำงานด้วยความสุข ซึ่งเป็นการใช้เวลาได้อย่างมีคุณค่า ส่งผลให้ผลลัพธ์ของงานที่ทำมีประสิทธิภาพ นอกจากนี้ยังเป็นการสร้างประโยชน์ให้กับคนอื่น หากยิ่งทำประโยชน์ให้คนมากขึ้นเท่าไหร่ ก็จะช่วยให้คุณได้ผลตอบแทนที่เป็นตัวเงินมากขึ้นอีกด้วย